ที่นอนลมรังผึ้งคือตัวช่วยสำคัญสำหรับผู้ป่วยติดเตียง เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงในการเกิดแผลกดทับ เนื่องจากผู้ป่วยที่ต้องนอนในท่าทางเดิมเป็นเวลานานจะมีความเสี่ยงที่ผิวหนังในบริเวณใดบริเวณหนึ่ง เช่น สะโพก ก้น ไหล่ จะถูกแรงกดทับทำให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงได้จนเกิดบาดแผลหรือรุนแรงถึงขั้นเนื้อเยื่อตาย ติดเชื้อแบคทีเรีย จนเกิดเป็นแผลลุกลามใหญ่โตได้ เพราะฉะนั้นการใช้งานที่นอนลมรังผึ้งซึ่งมีคุณสมบัติในการกระจายแรงกดทับจึงช่วยให้ผู้ป่วยนอนสบาย และลดความเสี่ยงในการเกิดแผลกดทับได้ด้วย
ที่นอนลมรังผึ้งคืออะไร
สำหรับใครที่จำเป็นจะต้องดูแลผู้ป่วยติดเตียง หรือเคยเจอกับปัญหาที่ผู้ป่วยมีอาการของแผลกดทับมาก่อน ก็อาจจะเคยได้ยินชื่อของที่นอนลมรังผึ้งผ่านหูกันมาบ้างแล้ว เนื่องจากที่นอนดังกล่าวเป็นที่นอนลมซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับให้ผู้ป่วยรองนอน เพื่อลดการเกิดปัญหาแผลกดทับจากการรับน้ำหนักของผู้ป่วยเอง โดยหลักการทำงานของที่นอนลมรังผึ้งนี้ก็จะอาศัยการสลับตวามดันลมจากตัวปั๊ม เพื่อกระจายแรงกดทับระหว่างตัวผู้ป่วยกับพื้นของเตียงนอนโดยการสลับการพองและยุบของตัวที่นอน
ซึ่งนอกจากกลไกในการทำงานของแรงดันที่สลับไปมาในแต่ละจุดนี่เอง เมื่อรวมเข้ากับรูปแบบของตัวที่นอนที่มีการออกแบบให้คล้ายคลึงกับรังผึ้งจึงยิ่งช่วยให้เพิ่มความสามารถในการลดการกดทับรวมไปถึงสามารถกระจายน้ำหนักไปยังบริเวณต่าง ๆ ได้ดีมากยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการใช้งานและคุณสมบัติของที่นอนลมรังผึ้งก็อาจจะมีความแตกต่างกันออกไปบ้างตามฟังก์ชันและการออกแบบของผู้ผลิตสินค้า
5 ข้อดีของที่นอนลมรังผึ้ง
หากดูเพียงผิวเผินหลายคนก็อาจจะคิดว่าที่นอนลมรังผึ้งก็เป็นเพียง ‘ที่นอนท็อปเปอร์’ หรืออุปกรณ์สำหรับรองนอนรูปแบบหนึ่งเพื่อช่วยทำให้เกิดความนุ่มสบายเวลานอนเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วที่นอนลมรังผึ้งแบบนี้กลับมีข้อดีและคุณสมบัติในการลดแรงกดทับ และช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดแผลกดทับซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาหลักที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยติดเตียง และยังมีข้อดีอีกหลายประการซึ่งเราได้รวมมาให้ทุกคนได้อ่านกันแล้วดังนี้
1. ป้องกันการเกิดแผลกดทับ
แน่นอนว่าข้อดีในข้อแรกที่จะไม่กล่าวถึงคงไม่ได้เลย นั่นก็เพราะว่าที่นอนลมประเภทนี้นั้นมีส่วนช่วยสำคัญเพื่อลดการเกิดแผลกดทับในผู้ป่วยติดเตียงหรือผู้ที่มีน้ำหนักมาก ทั้งยังช่วยลดการเกิดแรงเสียดสีระหว่างที่นอนและผิวของผู้ป่วยได้อีกด้วย โดยวัสดุส่วนใหญ่ของที่นอนลมรังผึ้งจะผลิตจาก PVC ที่มีความทนทาน นุ่มสบาย และรองรับน้ำหนักได้เป็นอย่างดี
2. นอนสบายไม่รู้สึกติดขัด
หลายคนอาจจะเกิดความกังวลว่าการใช้ที่นอนลมรังผึ้งเพื่อรองเสริมไปจากที่นอนปกติอาจจะทำให้เกิดความรู้สึกขัด ๆ และนอนไม่สบาย ส่งผลต่อการนอนพักผ่อนของผู้ป่วยหรือไม่ ซึ่งต้องบอกเลยว่าข้อดีของที่นอนลมประเภทรังผึ้งนั้นข้อดีก็คือด้วยตัวลอนที่มีการออกแบบมาในลักษณะดังกล่าวทำให้นอนสบาย ไม่รู้สึกว่ามีอะไรมาขัดหขวางการนอน นอกจากนั้นวัสดุที่ใช้ก็ยังมีความนิ่มไม่แข็งอีกด้วย
3. กระจายน้ำหนักได้ดี
เนื่องจากการทำงานของที่นอนลมรังผึ้งนี้ถูกออกแบบมาให้สามารถช่วยลดการกดทับและกระจายน้ำหนักได้ดี ดังนั้นนี่จึงเป็นข้อดีอีกหนึ่งข้อที่ทำให้ที่นอนดังกล่าวได้รับความนิยม ไม่เพียงเท่านั้นที่นอนลมในบางรุ่นก็อาจจะมีฟังก์ชันเพิ่มเติมเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งาน เช่น สามารถปรับความนุ่มหรือความแข็งของที่นอนได้ตามความต้องการ
4. ใช้งานง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก
การดูแลผู้ป่วยติดเตียงซึ่งไม่สามารถดูแลตนเองได้นั้น แน่นอนว่าจะต้องมีอุปกรณ์เครื่องมือและการดูแลที่มากมายกว่าคนทั่วไปอยู่แล้ว ดังนั้นอุปกรณ์ที่นำมาใช้เพื่อเป็นตัวช่วยในรูปแบบต่าง ๆ จำเป็นจะต้องมีความสะดวกในการใช้งาน, ทำความสะอาดง่าย, และเคลื่อนย้ายสะดวกเป็นสำคัญ ซึ่งที่นอนลมรังผึ้งก็เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ผู้ป่วยที่ตอบโจทย์
5. หาซื้อได้ง่าย
เรียกได้ว่าเป็นข้อดีซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับผู้ใช้งานในสมัยนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากที่นอนรังผึ้งเพื่อผู้ป่วยติดเตียง รวมไปถึงอุปกรณ์และของใช้สำหรับผู้ป่วยคุณภาพดีมากมายก็สามารถหาซื้อได้ง่าย ซึ่งที่ร้าน Dowell สินค้าสุขภาพของเรามีบริการอุปกรณ์ทางการแพทย์, สินค้าผู้ป่วย, อุปกรณ์ผู้สูงอายุ, ยาสามัญประจำบ้านและอีกมากมายให้ทุกคนเลือกซื้อได้ตามความต้องการ สามารถเดินทางมาเลือกชมสินค้าคุณภาพมากมายจากหน้าร้านที่อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ หรือจะเลือกใช้บริการจัดส่ง Delivery ถึงหน้าบ้านก็ได้เช่นเดียวกัน
ข้อควรระวังในการใช้งานที่นอนลมรังผึ้ง
วิธีการใช้งานที่นอนลมรังผึ้งนั้นไม่ได้มีความซับซ้อนมากจนเกินไป เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นอุปกรณ์ที่เหมาะสำหรับการใช้งานของคนทั่วไปได้เป็นอย่างดี แต่ถึงอย่างนั้นการใช้งานที่นอนลมประเภทนี้ให้มีประสิทธิภาพและเป็นการยืดอายุการใช้งานก็ยังมีสิ่งที่ต้องระวังอยู่เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการระมัดระวังเรื่องความสะอาด ,ไม่ควรให้ผู้ป่วยตัวเปียกในขณะที่นอนบนที่นอนเพื่อลดการสะสมความชื้นและลดความเสี่ยงของการเกิดเชื้อรา, คอยสังเกตการรั่วซึมของลมเพื่อประสิทธิภาพในการกระจายน้ำหนัก, ควรให้ที่นอนพองลมเต็มที่ก่อนการใช้งาน, ละเว้นการก่อให้เกิดประกายไฟในขณะที่มีการใช้งานที่นอนลมรังผึ้ง