การใช้งานอ่างแช่ก้นอาจจะเป็นสิ่งที่คนทั่วไปยังไม่ค่อยคุ้นชินมากนัก ทั้งยังไม่รู้ว่ามันถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อประโยชน์ในด้านใดกันแน่ รวมไปถึงผู้ที่มีอาการที่เกี่ยวข้องเองก็อาจจะยังไม่รู้ว่ามีอุปกรณ์ตัวนี้ ที่สามารถนำเอามาใช้เพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดให้ผู้ป่วยทุกคนรู้สึกดีมากยิ่งขึ้นได้ด้วย ดังนั้นเราจึงได้นำเอาเรื่องราวน่ารู้เกี่ยกับอ่างแช่ก้น ตลอดจนวิธีการรักษาด้วย Warm Sitz Bath มาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกัน เพื่อที่จะได้เลือกใช้งานอุปกรณ์ดังกล่าวกับผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บปวดจากโรคที่เป็นอยู่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยโรคริดสีดวงทวาร ซึ่งจำเป็นจะต้องมีการใช้งานอ่างในลักษณะนี้เพื่อบรรเทาอาการปวดและลดการติดเชื้อที่เกิดจากกระบวนการรักษาด้วยนั่นเอง เพราะฉะนั้นเพื่อให้ทุกคนได้รู้จักประโยชน์ของอ่างแช่ก้นลแบบเข้าใจง่ายและเห็นภาพกันได้มากขึ้น เว็บไซต์ Dowell สินค้าสุขภาพของเราจึงได้รวบรวมเรื่องราวความรู้ดี ๆ ที่มีประโยชน์มาแบ่งปันให้ทุกคนได้อ่านกันแล้ว
สาเหตุของโรคริดสีดวงทวาร และอาการที่พบบ่อย
ผู้ป่วยโรคริดสีดวงทวารที่จำเป็นจะต้องใช้งานอ่างแช่ก้น โดยส่วนใหญ่แล้วมักเป็นเพราะการเกิดแผลบริเวณทวารหนัก จนทำให้มีความเจ็บปวด เสี่ยงต่อการติดเชื้อ และมีแผลในบริเวณดังกล่าว ไม่ว่าจะเพราะอาการที่รุนแรงจากตัวโรคเอง หรือแผลที่เกิดขึ้นจากการรักษาก็ตาม เนื่องจากโรคนี้เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือดดำบริเวณปลายสุดของลำไส้ใหญ่ และส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วยค่อนข้างมาก
รวมถึงมีระดับความรุนแรงที่อาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้มากอย่างไม่น่าเชื่อ เช่น มีการอักเสบอย่างรุนแรง มีเลือดไหลออกมาไม่หยุด มีน้ำเหลือง เกิดการติดเชื้อ เกิดการเน่าของชิ้นเนื้อบริเวณใกล้เคียง เป็นต้น ดังนั้นการรีบเข้ารับการรักษาและเลือกบรรเทาอาการเจ็บปวดที่เกิดขึ้นด้วยอ่างแช่ก้นในระยะเริ่มต้น ตลอดจนหลังจากเข้ารับการรักษามาแล้วจึงเป็นสิ่งจำเป็นกับผู้ป่วยอย่างมาก
อ่างแช่ก้น และ Warm Sitz Bath คืออะไร
อุปกรณ์สำหรับช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด และลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในบริเวณช่วงล่างของร่างกาย ไม่ว่าจะบริเวณอวัยวะเพศ ผิวหนังในบริเวณใกล้เคียง หรือจะเป็นบริเวณทวารหนักอย่างอ่างแช่ก้นหรือกระโถนแช่ก้นนั้น เป็นวิธีการบรรเทาและเยียวยาความเจ็บปวดของผู้ป่วยด้วยอุปกรณ์ที่มีลักษณะคล้ายกะละมัง แต่จะมีการดีไซน์ที่รับกับร่างกายได้มากกว่า
โดยลักษณะทั่วไปของอุปกรณ์ประเภทนี้จะมีส่วนที่ยื่นออกมาจากด้านข้าง เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถวางตัวอุปกรณ์เข้ากับโถสุขภัณฑ์ในระหว่างการใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นก็อาจจะมีคนที่นิยมใช้งานกะละมังและอ่างอาบน้ำในการแช่ได้ด้วย ซึ่งการใช้งานอ่างแช่ก้นในปัจจุบันนี้ไม่ได้เพียงเพื่อบรรเทาอาการจากริดสีดวงทวารเท่านั้น แต่มันยังสามารถใช้เพื่อบรรเทาอาการอื่น ๆ ได้อีกมากมาย เช่น
- บรรเทาอาการปวดหรืออาการคันบริเวณช่วงล่าง
- บรรเทาอาการระคายเคืองบริเวณผิวหนัง
- ใช้สำหรับรักษาและบรรเทาอาการในผู้ป่วยโรคต่อมลูกหมากอักเสบ
- ลดอาการปวดบริเวณอวัยวะเพศของหญิงตั้งครรภ์หรือหลังคลอดบุตร
- บรรเทาอาการอักเสบ และช่วยฟื้นตัวให้กับผู้ที่เพิ่งผ่าตัดแปลงเพศ
- ช่วยรักษาและฟื้นฟูแผลที่เกิดขึ้นในบริเวณดังกล่าวได้ดียิ่งขึ้น
- อื่น ๆ ตามลักษณะอาการ
ขั้นตอนการใช้งานอ่างแช่ก้นในเบื้องต้น
สำหรับวิธีการใช้งานอ่างแช่ก้นเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดจากโรค ใช้เพื่อลดการติดเชื้อ หรือฟื้นฟูบาดแผลจากการผ่าตัดจะเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าการรักษาด้วยวิธีการ Warm Sitz Bath หรือก็คือการแช่น้ำอุ่นโดยจัดในลักษณะท่าทางให้บริเวณก้นและอวัยวะเพศแช่อยู่ในน้ำอุ่น โดยอาจจะใช้เพียงน้ำอุ่นธรรมดาหรือจะมีการเติมยาชนิดต่าง ๆ ลงไปตามคำแนะนำของแพทย์ผู้ทำการรักษาด้วยก็ได้ เช่น เกลือ น้ำส้มสายชู ด่างทับทิม หรือเบกกิ้งโซดา โดยขั้นตอนสำหรับใครที่ต้องการใช้วิธี Warm Sitz Bath จากอ่างแช่ก้นจะมีรายละเอียดดังนี้
- ทำความสะอาดอ่างแช่ก้นและบริเวณโถสุขภัณฑ์ ก่อนที่จะจัดวางอุปกรณ์ลงไปบนฝารองนั่ง และทดสอบความแข็งแรงก่อนการใช้งานทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัย รวมถึงตรวจสอบให้ดีว่าตัวอ่างและบริเวณฝาโถมีความพอดีกันหรือไม่
- ทำการต้มน้ำโดยเลือกใช้น้ำสะอาดเท่านั้น และหลีกเลี่ยงการใช้ภาชนะเช่นหม้อที่ผ่านการใช้งานเพื่อทำอาหารมาก่อนแล้ว เพราะอาจจะมีสารตกค้างหรือเชื้อโรคที่สะสมอยู่
- รอจนน้ำมีอุณหภูมิที่อุ่นพอดีแล้วค่อยทำการเทน้ำอุ่นลงไปในอ่างแช่ก้น หลีกเลี่ยงการใช้น้ำเดือดจัดเพราะอาจจะทำให้บาดแผลได้รับความเสียหาย รวมถึงส่งผลเสียต่อผิวหนังในบริเวณดังกล่าวได้ด้วย โดยไม่จำเป็นต้องเทน้ำลงไปให้เต็ม เนื่องจากเวลาที่ผู้ป่วยนั่งลงไปแล้วอาจจะทำให้เกิดน้ำล้นทะลักออกมาได้ ให้ทำการเติมน้ำลงไปประมาณ 1 ส่วน 3 ของปริมาณที่รับได้ทั้งหมดก็เพียงพอแล้ว
- ให้ผู้ป่วยทำการนั่งลงเพื่อแช่ในอ่างแช่ก้น ซึ่งบรรจุน้ำอุ่นเอาไว้ประมาณ 15 – 20 นาที หรือตามคำแนะนำของแพทย์ผู้ทำการรักษา
- หากนั่งไปสักพักแล้วรู้สึกว่าอุณหภูมิของน้ำไม่อุ่นแล้ว ก็สามารถเปลี่ยนน้ำเพื่อแช่ต่อไปได้
- ทุกครั้งหลังจากที่ผู้ป่วยใช้อ่างแช่ก้นเสร็จตามเวลาแล้ว จพต้องทำการเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าสะอาดให้แห้งก่อนทุกครั้ง โดยให้ทำการซับเบา ๆ จนกว่าจะแห้ง ไม่ควรใช้แรงถูในบริเวณดังกล่าวด้วยความรุนแรงเพราะอาจจะทำให้เกิดการอักเสบได้