“ชาตามปลายมือปลายเท้า” อาการที่พบเห็นได้บ่อยๆ บางคนมีอาการเพียงชั่วครู่ บางคนมีอาการนาน และความถี่ในการเกิด อาการชาก็ต่างไปในแต่ละคน ซึ่งอาการ “ชา” นี้เป็นอาการทางระบบประสาท เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความผิดปกติของ ระบบประสาท ดังนั้นควรหาสาเหตุและวิธีการแก้ไขอาการ ก่อนที่จะเกิดอาการแทรกซ้อนที่รุนแรงอย่างอื่นตามมานะคะ เรามาดูกันว่า อาการชาเกิดขึ้นได้อย่างไร ? และวิตามินตัวไหนที่มีส่วนสำคัญต่อการบำรุงรักษาในส่วนของระบบประสาท?
อาการชาเป็นอาการผิดปกติของระบบประสาทรับความรู้สึก ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกส่วนของร่างกาย โดยเฉพาะที่นิ้ว มือ แขน เท้าหรือขา เป็นอาการที่มีความรู้สึกเจ็บ ปวด ร้อน หรือเย็นน้อยกว่าปกติหรือไม่มีความรู้สึกเลย บางคนอาจรู้มีอาการเหมือน มีอะไรยุบยิบๆ ตามปลายมือปลายเท้า แล้วก็หายไปหรือเป็นตลอด ซึ่งอาการชาจะเกิดขึ้นเมื่อเส้นประสาทส่งความรู้สึกของ บริเวณที่เป็นทำงานบกพร่องไปแล้วอย่างน้อย 50%
อาการมือเท้าชาสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น อาจเกิดจากการนั่งหรือยืนในท่าเดิมเป็นเวลานาน ทำให้เลือดไปเลี้ยง ร่างกายไม่ทั่วถึง อาจเกิดจากมีระดับแร่ธาตุและวิตามินผิดปกติ หรืออาจมีสาเหตุจากโรคบางโรค เช่น โรคหมอนรองกระดูก กดทับเส้นประสาท งูสวัด เบาหวาน ปวดศีรษะไมเกรน ลมชัก หลอดเลือดสมอง และ Raynaud’s phenomenon เป็นต้น นอกจากนี้อาการชายังเป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นบ่อยจากการใช้ยาเคมีบำบัดหรือฉายรังสี
ในกรณีที่รู้สาเหตุของอาการมือเท้าชา จะรักษาตามสาเหตุนั้นๆ เช่น มือเท้าชาที่เกิดจากโรคเบาหวาน โดยอาการชานี้เป็น ภาวะแทรกซ้อนที่แสดงถึงภาวะของโรคเบาหวานที่รุนแรงมากขึ้น ดังนั้นผู้ป่วยเบาหวานหากจะบรรเทาหรือรักษาอาการชาก็ต้อง ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสม แต่ในกรณีที่ไม่สามารถหาสาเหตุของมือเท้าชาได้ ควรปรึกษาแพทย์ถึง อาการผิดปกติที่เกิดขึ้น เพื่อหาสาเหตุของอาการชาและทำการรักษาหรือป้องกัน เพราะหากเกิดอาการชาบ่อยขึ้นหรือมีอาการชา มากขึ้นแล้วปล่อยทิ้งไว้ โดยไม่หาสาเหตุและไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม อาจทำให้มีอาการรุนแรงขึ้นจนอาจไม่มีความรู้สึกเลย ทำให้มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุหรือบาดแผลได้ง่ายขึ้น
วิตามินชนิดไหนนะ? ที่ช่วยบำรุงระบบประสาท
ในกรณีที่อาการมือเท้าชาจากการขาดวิตามิน โดยเฉพาะวิตามินบี ซึ่งเป็นวิตามินที่มีอยู่ความจำเป็นต่อเส้นประสาท ให้เริ่มรับประทานอาหารที่ให้มีปริมาณวิตามิน B ที่เพียงพอ ซึ่ง วิตามิน B1 B6 และ B12 เป็นวิตามินที่มีส่วนสำคัญ ต่อการบำรุงรักษาเส้นประสาท เราสามารถรับวิตามินเหล่านี้ได้จากอาหารหลายชนิด
- วิตามิน B1 พบได้ในธัญพืช ข้าวไม่ขัดสี สารสกัดจากยีสต์ และผลิตภัณฑ์จากถั่ว
- วิตามิน B6 พบได้ในอาหารจำพวกปลาทูน่า ผักโขม หรือผักตระกูลปวยเล้งและกล้วย
- วิตามิน B12 ได้จากไข่ เนื้อสัตว์ อาหารทะเลประเภทกุ้ง ปู และผลิตภัณฑ์นม
แล้ววิตามินแต่ละชนิดมีส่วนช่วยต่อระบบประสาทยังไงบ้างนะ?
วิตามิน B1 หรือไทอามีน (Thiamine) ทำหน้าที่สร้างชั้นที่ปกป้องเส้นประสาทขณะที่มีการรับส่งกระแสประสาท ผ่านระบบสังเคราะห์สารสื่อประสาท
สัญญาณเตือนว่ามีอาการขาดวิตามินบี 1 เช่น รู้สึกเหนื่อยง่าย เริ่มเบื่ออาหาร นอนไม่หลับ อารมณ์แปรปรวน สมองมึนงง ความคิดสับสนวกวนจากการเสื่อมสภาพของระบบประสาทหากขาดรุนแรงก็อาจจะทำให้เกิดอาการทางการเคลื่อนไหวไม่ สัมพันธ์กัน เหน็บชา (beriberi) เป็นต้น
วิตามิน B6 หรือไพริด็อกซีน (Pyridoxine) มีส่วนช่วยในการขนส่งกลูโคสในร่างกาย การขาดวิตามินนี้ ทำให้
ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเนื่องจากร่างกายไม่สามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานได้ โดยระดับน้ำตาลในเลือดอาจทำลาย ระบบประสาท
ทำให้เกิดโรคเส้นประสาทได้ การขาดวิตามิน B6 เป็นสาเหตุหนึ่งในการเกิดโรคปลายประสาทอักเสบในผู้ป่วย เบาหวาน
วิตามิน B12 หรือ โคบาลามิน (Cobalamin) ช่วยส่งเสริมให้เกิดการสร้างและเจริญเติบโตของ เซลล์ประสาท
เมื่อขาดวิตามิน B12 เป็นเวลานาน เนื้อเยื่อที่ห่อหุ้มและป้องกันเส้นประสาทเกิดการเปลี่ยนแปลงทำให้เกิดโรค เส้นประสาทขึ้น
วิตามิน B ทั้งหมดเป็นวิตามินละลายน้ำ วิตามินที่เกินจำเป็นซึ่งร่างกายไม่ได้ใช้ก็จะถูกขับออกทาง เหงื่อ หรือปัสสาวะ
Dowell สินค้าสุขภาพ เป็นเพื่อนกับเรา Line (official)
คลิ้กลิ้งค์ https://lin.ee/uThVbi6 ยินดีให้บริการค่ะ
#Dowell #Dowellhealthyshop #สินค้าสุขภาพ #ดูเวล #ดูเวลลสินค้าสุขภาพ #Dowellสินค้าสุขภาพ #Dowellhealthyshop